เคล็ดลับ เลือกแบบประตู-หน้าต่าง ให้เหมาะกับบ้าน

ประตู-หน้าต่าง ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของบ้าน ที่ทำหน้าที่เป็นช่องเปิดเชื่อมโยงแต่ละพื้นที่เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะพื้นที่ภายในกับภายในด้วยกัน หรือภายในกับภายนอก โดยลักษณะของประตู-หน้าต่างมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป ตามความสวยงาม ประโยชน์การใช้ และข้อจำกัด

มาทำความรู้จักประตู-หน้าต่างรูปแบบต่างๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้เหมาะสมและเสริมให้บ้านหรูนั้นสวยงาม มีเอกลักษณ์มากที่สุด

1. รูปแบบของบานประตู

ประตูบานเปิด

ประตูรูปแบบบานเปิดนี้ลักษณะการใช้งานจะเปิดออกกว้างได้ถึง 180 องศา มีทั้งแบบบานเดี่ยวและบานคู่ซึ่งการเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และความกว้างของทางเข้า ส่วนมากจะนิยมใช้เป็นประตูทางเข้าบ้าน และภายในบ้านกับห้องต่างๆ เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องพระ

โดยในขั้นตอนการติดตั้งประตูประเภทนี้ สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นแบบเปิดเข้า หรือเปิดออก ซึ่งจะสามารถผลักได้ด้านเดียว และต้องเผื่อพื้นที่สำหรับการเปิดประตูรูปแบบนี้

ประตูบานสวิง

ประตูบานสวิงจะมีลักษณะค้ลายประตูบานเปิด แต่ต่างกันที่ประตูบานเปิดจะเปิดได้ทางเดียว แต่ประตูบานสวิงสามารถผลักเข้า-ออกได้สองด้าน วัสดุที่ใช้ทำประตูมักใช้เป็นกรอบอะลูมิเนียมและลูกฟักกระจก ส่วนบริเวณกรอบบานจะมีอุปกรณ์สวิงลักษณะเหมือนแกนหรือเดือยยึดไว้กับพื้นด้านล่างและวงกบหรือบานประตูด้านบน

บานประตูรูปแบบนี้นิยมใช้ในสถานที่ที่เน้นการเข้า-ออกได้ทั้งสองทาง และมีคนใช้งานบ่อย ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม อาคาสำนักงาน หรือสำหรับบ้านพักอาศัยก็สามารถนำไปใช้ได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้าของบ้าน และความเหมาะสมในการใช้งาน เช่น บางบ้านอาจปรับพื้นที่บางส่วนเป็นโฮมออฟฟิศ ก็สามารถเลือกใช้ประตูแบบบ้านสวิงได้ในพื้นที่ได้เช่นกัน

ประตูบานเลื่อน

ลักษณะประตูจะเปิด-ปิดด้วยการเลื่อนออกด้านข้าง ซึ่งมีข้อดีคือช่วยประหยดพื้นที่ และค่อนข้างสะดวกปลอดภัยสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุ หรือผู้ใช้รถเข็น

ประตูบานเลื่อนมีส่วนประกอบที่สำคัญคือตัวประตู และรางเลื่อน โดยมีทั้งแบบรางเลื่อนบน และรางเลื่อนล่าง ส่วนรูปแบบประตูบานเลื่อนมีทั้งแบบบานเลื่อนเดี่ยว ประตูบานเลื่อนคู่ และประตูบานเลื่อนสลับ โดนการติดตั้งสามารถตั้งเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบเซ็นเซอร์ได้

เคล็ดลับ เลือกแบบประตู-หน้าต่าง ให้เหมาะกับบ้าน

ประตูบานเฟี้ยม

เป็นประตูที่ประกอบด้วยบานประตูหลายๆ บานมาต่อกันด้วยบานพับ ลักษณะการเปิด-ปิดประตูจะเป็นแบบพับทบสลับกันไปรวมที่ด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้านของช่องประตู ทำให้ช่องเปิดนั้นกว้างกว่าประตูประเภทอื่นๆ และถือเป็นเสน่ห์ของประตูประเภทนี้

ประตูบานเฟี้ยมนิยมนำมาใช้เพื่อกั้นพื้นที่ภายในบ้านให้เป็นสัดส่วน เช่น การกั้นระหว่างห้องรับประทานอาหารกับห้องนั่งเล่น หรือกั้นไว้เพื่อเชื่อมต่อระหว่างภายในบ้านกับบรรยากาศภายนอก เช่น ห้องนั่งเล่นกับสวน

ประตูบานหมุน

เป็นรูปแบบประตูที่มีการติดตั้งจุดหมุนไว้กลางบานประตู และติดตั้งโช๊คอัพฝังพื้นแบบตั้งค้างได้ 90 องศา แต่สามารถหมุนได้รอบ 360 องศา จำนวนประตูที่ใช้หากติดตั้งเพียงบานเดียวบจะมีช่องประตูเพียงครึ่งเดียวของบานประตู ดังนั้นจึงนิยมติดตั้งประตูบานหมุนตั้งแต่สองบานขึ้นไปเพื่อให้ใช้สอยได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนกรอบของบานประตูมักทำมาจากอลูมิเนียม สแตนเลส และเหล็ก ซึ่งจะสะดวกต่อการติดตั้งจุดหมุนมากกว่าวัสดุชนิดอื่นๆ

ประตูบานหมุนใช้เพื่อแบ่งพื้นที่ หรือเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในกับภายนอก โดยนิยมใช้ในบ้านขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว้างขวาง หรือใช้ตามออฟฟิศและโรงพยาบาล

2. รูปแบบของหน้าต่าง

หน้าต่างบานเปิด

หน้าต่างรูปแบบนี้สามารถเปิดรับแสงและลมได้เต็มที่ เพราะมีลักษณะของบานหน้าต่างแบบเปิดออก ซึ่งค่อนข้างกินพื้นที่ด้านนอกที่บานประตูเปิดออก ดังนั้นจึงควรติดตั้งในบริเวณที่ไม่กีดขวางทางเดิน หรือไม่ได้เป็นพื้นที่ผ่านประจำ เช่น พื้นที่ชั้น 2 ของบ้าน

หน้าต่างประเภทนี้สามารถใช้วัสดุได้หลากหลาย เช่น ไม้ อลูมิเนียม เหล็ก และสแตนเลส และมีส่วนประกอบสำคัญคือบานพับ ที่ทำหน้าที่ยึดตัวบานหน้าต่างเข้ากับวงกบ

หน้าต่างบานเลื่อน

เป็นรูปแบบหน้าต่างที่ใช้การเปิดและปิดด้วยการเลื่อนออกด้านข้าง ซึ่งมีทั้งแบบเลื่อนได้ทิศทางเดียว และเลื่อนสองทิศทาง คล้ายประตูบานเลื่อน การติดตั้งสามารถทำได้ในทุกส่วนของบ้าน และเหมาะอย่างยิ่งในบริเวณที่มีคนผ่านไปมาบ่อย ซึ่งจะไม่เป็นอันตรายเวลาเปิด และไม่กีดขวาง ประโยชน์ของหน้าต่างแบบนี้ช่วยทั้งการเปิดรับบรรยากาศภายนอก หรือเป็นช่องหน้าต่างสำหรับส่งอาหารจากในครัวเข้าพื้นที่รับประทานอาหาร หรือส่งของระหว่างห้อง

หน้าต่างบานเกล็ด

เป็นหน้าต่างที่ไม่กินพื้นที่เวลาเปิดใช้งาน ประโยชน์ใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นไปเพื่อระบายอากาศ ให้ถ่ายเทหมุนเวียนดี และรับแสง ลม จากภายนอก แต่มีข้อจำกัดคือ ไม่สามารถให้สิ่งของต่างๆ ลอดผ่านได้

หน้าต่างบานยก

เป็นหน้าต่างที่มีลักษณะการใช้งานแบบต้องยกบานหน้าต่างขึ้นแล้วใช้วิธีบิดอุปกรณ์ล็อคเพื่อเปิดค้างไว้ และยกบานหน้าต่างลงเมื่อต้องการปิด สามารถเปิดรับบรรยากาศภายนอกได้ครึ่งหนึ่งของพื้นที่ช่องเปิดเต็ม ซึ่งเหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยหรืออาคารสูงๆ

หน้าต่างบานพลิก

เป็นหน้าต่างที่มีลักษณะมีจุดศูนย์กลางการหมุนอยู่กลางบานหน้าต่าง สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการผลักให้บานหน้าต่างพลิกไปมา โดยมีทั้งแบบพลิกแนวตั้งและแนวนอน

หน้าต่างบานกระทุ้ง

เป็นหน้าต่างมีมีลักษณะมีบานพับอยู่ด้านบนของตัวบานหน้าต่าง วิธีการเปิดคือดันจากด้านล่างของบานหน้าต่างออกไป การติดตั้งต้องเผื่อพื้นที่สำหรับเปิดใช้งาน ดังนั้นควรใช้ในบริเวณที่ไม่ใช้ทางเดินหลัง หรือไม่ใช่พื้นที่ที่คนผ่านไปมาเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นการติดตั้งหน้าต่างประเภทนี้ในพื้นที่ชั้นสองขึ้นไป หรือใช้เป็นหน้าต่างห้องน้ำเพื่อการระบายอากาศ

ประตู-หน้าต่าง มีรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย การเลือกใช้ให้เหมาะกับบ้าน และตอบโจทย์มากที่สุด จึงควรพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ เช่น แบบบ้าน ประโยชน์การใช้งาน และพื้นที่ที่ติดตั้ง รวมถึงการไม่ลืมคำนึงถึงข้อจำกัดต่างๆ ของประตู-หน้าต่างแต่ละรูปแบบนั้น